เรียกได้ว่ามาแรงสมฐานะตัวเต็งของปี เพราะบนเวที The Game Awards ล่าสุด Clair Obscur: Expedition 33 ผงาดคว้ารางวัล Game of the Year ไปครองแบบไม่พลิกโผ แถมไม่ได้ชนะแค่สาขาเดียว แต่กวาดรวมทั้งหมดถึง 9 รางวัล จากการถูกเสนอชื่อเข้าชิง 12 สาขา ถือว่าเป็นหนึ่งในผลงานอินดี้ที่ “ปะทะเกมใหญ่” แล้วชนะได้อย่างสวยงามที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์งานนี้เลยก็ว่าได้
นอกจาก Game of the Year แล้ว Clair Obscur ยังคว้ารางวัลสำคัญอย่าง
- Best Game Direction
- Best Narrative
- Best Art Direction
- Best Score and Music
- Best Role-Playing Game
- Best Independent Game
- Best Debut Indie Game
ไปกอดไว้ทั้งหมด และยังได้รางวัล Best Performance จากการแสดงของ Jennifer English ในบท Maelle อีกด้วย เรียกว่าชนะทั้งด้านการเล่าเรื่อง บรรยากาศ งานภาพ ดนตรี ระบบ RPG และพลังการแสดงครบทุกมิติ ส่วนหนึ่งเดียวที่พลาดไปคือสาขา Best Audio Design ที่ตกเป็นของ Battlefield 6
ฝั่งเกมอื่น ๆ เองก็มีโมเมนต์เด่นของตัวเอง Hollow Knight: Silksong คว้ารางวัล Best Action/Adventure ไปครอง สมกับการรอคอยยาวนานของแฟน ๆ ที่ติดตามมาตั้งแต่ภาคแรก ขณะที่ Hades 2 ก็ไม่พลาดหยิบรางวัล Best Action Game ไปตามคาด ด้าน Baldur’s Gate 3 ยังโชว์พลังของคอมมูนิตี้อีกครั้งด้วยรางวัล Best Community Support ส่วน No Man’s Sky ก็กลับมายืนในสปอตไลต์ด้วยรางวัล Best Ongoing Game เป็นการตอกย้ำเส้นทางการกู้ชื่อจากเกมเปิดตัวเสียงแตก กลายเป็นเกมระยะยาวที่ได้รับการยอมรับอย่างเต็มตัวแล้วในวันนี้ และในหมวดความคาดหวัง แน่นอนว่า Grand Theft Auto 6 ผงาดคว้า Most Anticipated Game ไปแบบไม่มีใครแปลกใจ
สำหรับใครที่ยังไม่ได้แตะ Clair Obscur: Expedition 33 ตอนนี้ถือเป็น “จังหวะดีที่สุด” ก็ว่าได้ เพราะตัวเกมกำลังลดราคา แถมทีมพัฒนา Sandfall ยังเพิ่งปล่อยอัปเดตใหญ่ที่ขยายคอนเทนต์ช่วงหลังจบเกม ให้คนที่เล่นจบแล้วมีอะไรให้กลับไปเคลียร์ต่ออีกยาว ถ้าคุณอยากรู้ว่าทำไมเกมอินดี้ RPG เรื่องเล่าเข้มข้นเกมหนึ่ง ถึงกวาดรางวัลชนะเกมฟอร์มยักษ์ได้ขนาดนี้ อาจถึงเวลาต้องลองพิสูจน์ด้วยตัวเองแล้วว่า Game of the Year ของปีนี้ “คู่ควรกับตำแหน่ง” แค่ไหน
