หลังข่าวปลดพนักงานในทีม Turn 10 Studios หลายคนก็เดาได้ไม่ยากว่าอนาคตของ Forza Motorsport ภาคล่าสุดคงไม่สดใสเท่าไร ตอนนี้คำตอบมาแบบชัด ๆ แล้วว่า เกมจะ ไม่มีคอนเทนต์ใหม่เพิ่มอีกต่อไป ไม่ว่าจะเป็นรถใหม่ สนามใหม่ หรือฟีเจอร์ใหม่ใด ๆ ทั้งสิ้น
ที่น่าหนักใจกว่านั้นคือ Turn 10 ยังระบุด้วยว่า จะไม่มีการออกแพตช์แก้บั๊กตามรอบปกติอีกแล้ว เรียกง่าย ๆ ว่าในเชิงพัฒนา ตัวเกมอยู่ในสถานะ “แช่แข็ง” แล้วนับจากนี้
อย่างไรก็ตาม Forza Motorsport ยังไม่ได้ถูกปล่อยทิ้งกลางถนนแบบหมดลมหายใจเสียทีเดียว เพราะทีมงานยืนยันว่าจะยังคงเปิดเซิร์ฟเวอร์ให้เล่นออนไลน์ต่อไป พร้อมจัดอีเวนต์พิเศษและทัวร์นาเมนต์เป็นระยะ รวมถึงนำเอา Featured Tours และรถรางวัลที่เคยปล่อยไปแล้วกลับมาหมุนเวียนให้เล่นใหม่ในแต่ละเดือน จนกว่าคอนเทนต์ทั้งหมดจะถูกปลดล็อกให้เข้าถึงได้ตลอดเวลา
มองอีกมุม หนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ Turn 10 ต้องถอนกำลังจากภาค Motorsport ก็คือการไปช่วยงานโปรเจกต์ที่ “ใหญ่กว่า” อย่าง Forza Horizon 6 ซึ่งกำลังพัฒนาอยู่ร่วมกับ Playground Games และมีกำหนดลง Xbox Series X/S และ PC ในปีหน้า รวมถึงภารกิจสำคัญอย่างการทำพอร์ตลง PS5 ในระยะถัดไปด้วย การโยกทรัพยากรไปทุ่มให้ภาคที่สดใหม่และมีโอกาสเติบโตมากกว่าจึงดูเป็นทางเลือกที่ Microsoft มองว่าจำเป็นในเชิงธุรกิจ
สำหรับแฟน Forza Motorsport ภาคนี้จึงกลายเป็นตอนจบแบบขมหวานอยู่ไม่น้อย ตัวเกมเปิดตัวด้วยเสียงตอบรับที่ไม่เปรี้ยงอย่างที่หลายคนคาดหวัง ทั้งด้านคอนเทนต์และภาพลักษณ์ในฐานะ “ภาครีบูต” ของซีรีส์ ซ้ำยังต้องมาจบลงด้วยการหยุดพัฒนาต่อในเวลาไม่นาน แม้ฝั่ง Phil Spencer จะยืนยันว่าสาย Motorsport ของ Forza ยังไม่ตาย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าบทของภาคนี้จบลงเร็วกว่าที่แฟนแข่งรถหลายคนคิดเอาไว้
คำถามต่อจากนี้จึงไม่ใช่แค่ว่า Forza Horizon 6 จะระเบิดฟอร์มได้แค่ไหน แต่คือวันหนึ่งถ้า Motorsport กลับมาอีกครั้ง มันจะถูกรีดีไซน์ใหม่อย่างไรเพื่อทวงความเป็น “เกมแข่งรถสายจริงจัง” ที่เคยเป็นหน้าเป็นตาของ Xbox ให้ได้อีกครั้ง
