ข่าวดีสำหรับแฟน ๆ Final Fantasy VII — ทีมพัฒนาเผยว่าโปรเจกต์ ภาคสุดท้ายของไตรภาค Remake ยังคงเดินหน้าไปอย่างราบรื่น แม้จะต้องพัฒนาเกมพร้อมกันถึงสี่แพลตฟอร์ม ได้แก่ PS5, Xbox Series X/S, PC และ Nintendo Switch 2
ในบทสัมภาษณ์กับ Easy Allies ผู้กำกับ Naoki Hamaguchi ยืนยันว่าการทำงานแบบ “มัลติเพลตฟอร์ม” ไม่ได้กระทบต่อคุณภาพของเกมเลยแม้แต่น้อย พร้อมอธิบายว่า ทีมพัฒนาได้แบ่ง “ทีมเฉพาะ” สำหรับแต่ละแพลตฟอร์มโดยตรง เพื่อให้แน่ใจว่าประสบการณ์การเล่นของผู้เล่นทุกระบบจะดีที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
“เรามีทีมเฉพาะที่รับผิดชอบแต่ละแพลตฟอร์ม เพื่อให้แน่ใจว่าการพัฒนาแบบมัลติเพลตฟอร์มจะไม่ส่งผลกระทบต่อเกมโดยรวม” Hamaguchi กล่าว “ตอนนี้ทุกอย่างดำเนินไปอย่างราบรื่นมาก — รวมถึงเวอร์ชันของ Nintendo Switch 2 ด้วย”
อย่างไรก็ตาม Hamaguchi ก็ยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่า ฝั่ง Xbox Series X/S พบปัญหาบางอย่างด้านหน่วยความจำ โดยกล่าวว่า “เหมือนกับผู้พัฒนาเกมรายอื่น ๆ เราพบข้อจำกัดเรื่องหน่วยความจำใน Xbox ซึ่งต้องใช้เวลาแก้ไขอยู่บ้าง” ถึงแม้จะไม่ได้พูดตรง ๆ ว่าปัญหานี้มาจาก Series S หรือไม่ แต่ก็สอดคล้องกับหลายเกมในอดีต เช่น Baldur’s Gate 3 และ Black Myth: Wukong ที่ต้องปรับฟีเจอร์บางส่วนบนคอนโซลรุ่นเล็กของ Xbox
สำหรับฝั่ง Nintendo Switch 2 Hamaguchi เผยว่าทีมหลักของ Square Enix กำลัง “ทำงานกันอย่างหนักมาก” เพื่อให้เกมออกมาดีที่สุด และมั่นใจว่าผลลัพธ์สุดท้ายจะไม่ทำให้แฟน ๆ ผิดหวัง
“หลังจากเราได้รับเสียงชื่นชมมากมายจาก Final Fantasy 7 Remake Intergrade ตอนนี้ทีมหลักกำลังทุ่มเทเต็มที่ และมั่นใจว่าเวอร์ชัน Switch 2 จะออกมาดีไม่แพ้ใคร” เขากล่าวเสริม
แม้ตอนนี้ Final Fantasy 7 Remake Part 3 จะยังไม่มีวันวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ แต่ Tetsuya Nomura ผู้กำกับฝ่ายครีเอทีฟได้เผยว่า “ช่วงเวลาการประกาศเปิดตัวได้ถูกกำหนดไว้เรียบร้อยแล้ว” และทาง Square Enix จะยึดตามกำหนดนั้นแน่นอน
ในขณะเดียวกัน Final Fantasy 7 Remake Intergrade ก็เตรียมลง Xbox Series X/S และ Nintendo Switch 2 วันที่ 22 มกราคม 2026 ส่วนภาค Rebirth ยังไม่มีกรอบเวลาเปิดตัวที่แน่นอน
แล้วสิ่งนี้สำคัญกับผู้เล่นอย่างไร?
คำยืนยันจาก Hamaguchi คือสัญญาณดีว่า Square Enix กำลังเดินหน้าอย่างมั่นคงกับการปิดตำนาน Final Fantasy 7 Remake Trilogy แบบไม่เร่งรีบและไม่ลดคุณภาพ ไม่ว่าจะเล่นบนแพลตฟอร์มไหนก็ตาม — นี่อาจเป็นครั้งแรกที่ผู้เล่นบนทุกระบบจะได้สัมผัสจุดจบของเรื่องราวที่รอคอยมากว่าสองทศวรรษพร้อมกันทั่วโลก
