The Relic: First Guardian

The Relic: First Guardian ประกาศวันวางขาย 26 พฤษภาคม 2026 บน PC, PS5 และ Xbox Series X|S

Inhyuk Park จาก Project Cloud Games ออกมาเผยรายละเอียดเพิ่มเติมของ The Relic: First Guardian พร้อมข่าวใหญ่ที่แฟน ๆ รอคอย—เกมมีกำหนดวางจำหน่ายวันที่ 26 พฤษภาคม 2026 บน PC, PlayStation 5 และ Xbox Series X|S ร่วมกับผู้จัดจำหน่าย Perp Games โดยคอนเซ็ปต์ของมันชัดเจนตั้งแต่ประโยคแรก: นี่ไม่ใช่การเดินทางของ “วีรบุรุษในตำนาน” แต่เป็นบทบาทของผู้ที่ค่อย ๆ ฟื้นคืนความทรงจำ และเป็นผู้พิทักษ์เรื่องเล่าที่โลกใบนี้ลืมไปแล้ว

โลกของ The Relic ถูกตั้งใจให้ไหลไปเหมือนนิทานพื้นบ้านเก่า ๆ ที่ผู้ใหญ่เล่าให้เด็กฟังก่อนนอน—นุ่มนวล ค้างคา และลึกอย่างเงียบงัน ระหว่างทางคุณจะไม่ได้เห็นแค่ซากปรักหักพังเพื่อผ่านด่าน แต่จะเห็น “ร่องรอยของคนที่เคยมีชีวิตอยู่” ตั้งแต่รอยขูดบนกำแพงแตก จดหมายที่ไหม้ไปครึ่งหนึ่ง ไปจนถึงกังหันกระดาษเล็ก ๆ ที่หมุนช้า ๆ บนเนินเขา ชวนให้จินตนาการถึงโศกนาฏกรรมเล็ก ๆ ที่อาจหนักหนาสาหัสกว่าที่มันดู และแก่นกลางของโลกนี้ก็คือเรื่องราวของผู้คนที่หายไปอย่างไร้เสียง

osbsksPuBf1ydHKE

สิ่งที่ทีมพัฒนาพยายาม “นิยามใหม่” ให้เข้ากับอารมณ์ของโลก คือระบบต่อสู้ที่ตั้งใจมอบอิสระในจังหวะการบุก และกดความตึงเครียดไว้ในช่วงเอาตัวรอด โดยเกมยืนยันว่า การโจมตีจะไม่ใช้ Stamina อีกต่อไป เพื่อให้ผู้เล่นได้เล่นในสไตล์ของตัวเองอย่างลื่นไหล จะคอมโบ จะกดจังหวะ จะสร้างริธึมการบุกแบบไหนก็ทำได้เต็มที่ ขณะที่ Stamina จะถูกเก็บไว้เพื่อ “การมีชีวิตรอด” เท่านั้น เช่นการป้องกัน การหลบ และช่วงเสี้ยววินาทีที่ชี้เป็นชี้ตายระหว่างความเป็นกับความตาย นอกจากนี้สกิลจะ ไม่ใช้ทรัพยากร แต่ทำงานด้วยระบบ คูลดาวน์ ทั้งหมด เพื่อทำให้โฟลว์การต่อสู้ไม่สะดุด และเปิดพื้นที่ให้ผู้เล่นแสดงตัวตนผ่านการเล่นอย่างแท้จริง

ตั้งแต่เริ่มเกม ผู้เล่นจะเลือกอาวุธได้ 5 สไตล์ ซึ่งถูกออกแบบให้ยึด “ธีมทางอารมณ์” ที่ต่างกัน และสร้างจังหวะการต่อสู้ที่คนละแบบอย่างชัดเจน ที่น่าสนใจคือแต่ละสไตล์อาวุธยังมี สายสกิลเฉพาะ 12 ต้นไม้ ให้ผสมความสามารถจนกลายเป็นคลาสที่ “มีอยู่แค่ในการเล่นของคุณเอง” มากกว่าจะเป็นคลาสสำเร็จรูปตามตำรา

ในด้านอุปกรณ์ The Relic เลือกหักกับโครงสร้าง RPG แบบลูตดรอปที่คุ้นเคย เพราะที่นี่จะไม่มี “ดาบคล้าย ๆ กันแต่แรงขึ้นนิดหน่อย” หรือ “เกราะเวอร์ชันดีกว่าเล็กน้อย” ทีมยืนยันว่า อาวุธและชุดเกราะทุกชิ้นมีอยู่เพียงชิ้นเดียวในโลก และแต่ละชิ้นผูกติดกับ “เรื่องราว” ของมันเอง ดาบอาจเป็นคมสุดท้ายของอัศวินที่ยืนหยัดปกป้องผู้คน โล่อาจเป็นคำสาบานที่ครอบครัวหนึ่งรักษาไว้หลายชั่วอายุคน หรือดาบใหญ่ที่แบกความหวังครั้งสุดท้ายของคนที่ไม่เคยได้กลับบ้าน คุณไม่ได้แค่ได้ไอเท็ม—คุณกำลัง “รับช่วงชีวิต” ของเรื่องเล่าที่มันเคยผ่านมาก่อน

ระบบเติบโตของเกมก็เดินไปในทิศทางเดียวกัน เพราะ The Relic ระบุว่า ไม่มีเลเวลตัวละคร การแข็งแกร่งขึ้นจะเกิดจาก “ความทรงจำ” โดยแกนกลางคือ Relics (Runes) fragments ที่อัดแน่นด้วยอารมณ์และความปรารถนาของผู้คนในอดีต แต่ละ Relic มีเอฟเฟกต์พาสซีฟมากกว่า 70 แบบ ซึ่งสามารถเปลี่ยนพฤติกรรมของสกิล ปรับจังหวะการต่อสู้ และดันสไตล์อาวุธบางแบบให้โดดเด่นขึ้นแบบชัดเจน การเติบโตจึงไม่ใช่ตัวเลขที่ไต่ขึ้นเรื่อย ๆ แต่เป็นการสะสมประสบการณ์ และประกอบร่าง “Guardian แบบที่คุณอยากเป็น” จากเศษเสี้ยวความทรงจำเหล่านั้น

อีกหนึ่งตัวเลขที่ทีมพัฒนาปล่อยมาแบบไม่กั๊กคือเกมจะมีบอสกว่า 70 ตัว และแต่ละตัวไม่ใช่แค่อุปสรรค แต่มองได้ว่าเป็น “นิทานสั้นหนึ่งบท” ที่ยืนอยู่ด้วยตัวมันเอง ไม่ว่าจะเป็นพ่อที่กลายเป็นอสูรเพราะความอดอยาก ความแค้นต้องสาปที่หลงเหลือจากคำสัญญาที่พังทลาย หรือวิญญาณที่ถูกความว่างเปล่ากลืนกินจนลืมแม้กระทั่งชื่อตัวเอง และเรื่องราวของพวกเขาจะสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อผู้เล่นเผชิญหน้าและปิดฉากมันลงด้วยตัวเอง

ท้ายที่สุด The Relic ย้ำว่า “First Guardian” ไม่ใช่ฮีโร่ที่จะถูกจารึกด้วยวีรกรรมยิ่งใหญ่ แต่เป็นคนที่ค่อย ๆ ชุบชีวิตความทรงจำที่กำลังเลือนหายให้กลับมามีเสียงอีกครั้ง ผ่านภาพเล็ก ๆ อย่างเด็กที่หมุนกังหันกระดาษระหว่างรอพ่อที่ไม่กลับมา จดหมายสั้น ๆ ที่ทิ้งไว้ให้คนที่อ่านมันไม่ไหวแล้ว หรือรอยเท้าที่หายไปในบาดแผลของสงคราม และเมื่อคุณรวบรวมเศษเสี้ยวเหล่านั้น ประกอบมันกลับเป็นเรื่องเล่า แล้วส่งเสียงที่ถูกลืมคืนสู่สายลม…วันหนึ่ง เรื่องของคุณเองก็อาจถูกเล่าต่อเป็นนิทานใต้ท้องฟ้ายามค่ำคืนเช่นกัน

แล้วพบกันวันที่ 26 พฤษภาคม 2026

GameTonix Ads Banner 970x250