แม้ว่า FromSoftware กำลังยุ่งอยู่กับการพัฒนาเนื้อหาใหม่ของ Elden Ring: Nightreign และเกม The Duskbloods ที่เป็นเอ็กซ์คลูซีฟสำหรับ Nintendo Switch 2 แต่ดูเหมือนว่าทางสตูดิโอก็กำลังซุ่มทำเกมใหม่อีกหนึ่งโปรเจกต์อยู่เช่นกัน จากรายงานของ Mp1st ระบุว่า FromSoftware อยู่ใน “ขั้นตอนพัฒนาขั้นสูง” ของโปรเจกต์ที่ใช้โค้ดเนมว่า FMC ซึ่งคาดว่าอักษรย่อนี้น่าจะเป็นชื่อย่อของโค้ดเนมที่ยาวกว่านี้อีก
รายงานยังระบุเพิ่มเติมว่า FMC จะเป็นเกมมัลติแพลตฟอร์ม ซึ่งถือเป็นจุดที่แตกต่างจาก The Duskbloods ที่เป็นเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะ Switch 2 และระดับความคืบหน้าของโปรเจกต์ก็อยู่ในขั้นที่อาจเปิดตัวได้ในปีหน้าเลยทีเดียว
หากพิจารณาจากโค้ดเนมของเกมก่อน ๆ ของ FromSoftware ที่ขึ้นต้นด้วยตัว F จะพบว่าโดยมากมักเกี่ยวข้องกับเกมในซีรีส์ Dark Souls หรือ Armored Core ทำให้มีความเป็นไปได้ว่า FMC อาจเป็นการคืนชีพ Dark Souls ในรูปแบบใหม่ แม้ว่าภาค 3 และ DLC จะถือเป็นบทสรุปสมบูรณ์ของซีรีส์แล้ว หรืออีกทางหนึ่งก็อาจเป็นโปรเจกต์ใหม่ของ Armored Core 6: Fires of Rubicon
แม้ว่า Armored Core 6 จะออกมาได้เพียงไม่กี่ปี แต่ซีรีส์นี้มักจะมีเกมภาคต่อออกตามมาในเวลาไม่นาน เช่น Armored Core 4 ในปี 2006 ตามมาด้วย For Answer ในปี 2008 หรือ Armored Core 5 ในปี 2012 ตามด้วย Verdict Day ในปี 2013 หากยึดตามธรรมเนียมเดิม ก็อาจมีภาคเสริมหรือภาคแยกของ Fires of Rubicon ออกมาในเร็ววัน
ในส่วนของ Dark Souls นั้น ฮิเดทากะ มิยาซากิ เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่าตนไม่ต้องการกลับไปทำซีรีส์นี้อีก แต่หาก FMC ไม่ใช่ภาคต่อของ Armored Core 6 ก็มีความเป็นไปได้ที่จะเป็น รีเมกหรือรีมาสเตอร์ของ Dark Souls 2 หรือ 3
ขณะที่งาน Gamescom ใกล้จะมาถึง เราอาจได้เห็นการประกาศใหม่จาก FromSoftware ในเร็ว ๆ นี้
สำหรับเกมก่อนหน้าที่ FromSoftware เคยทำ โค้ดเนมที่ใช้มีทั้ง NTCG และ NTC สำหรับ Sekiro: Shadows Die Twice, SPRJ สำหรับ Bloodborne, และ GR สำหรับ Elden Ring ซึ่งน่าสนใจที่ว่า Elden Ring: Nightreign ใช้โค้ดเนมว่า CL ซึ่งอาจหมายความว่าทางสตูดิโอไม่ได้มองว่า Nightreign เป็นส่วนหนึ่งของแฟรนไชส์ Elden Ring โดยตรง
ในระหว่างนี้ Elden Ring: Nightreign ถือเป็นการทดลองครั้งใหญ่ของ FromSoftware เพราะเป็นเกมที่ออกแบบมาเพื่อเล่นแบบมัลติเพลเยอร์ตั้งแต่ต้น ซึ่งไม่เคยมีมาก่อนในผลงานของพวกเขา โดยผู้กำกับ Junya Ishizaki เคยให้สัมภาษณ์ก่อนวางจำหน่ายว่า ทางสตูดิโอกำลังสังเกตปฏิกิริยาของผู้เล่นต่อ Nightreign เพื่อนำไปปรับใช้กับ The Duskbloods ด้วย โดยเขากล่าวว่า Nightreign “จะช่วยให้เรารู้ว่าผู้เล่นรู้สึกอย่างไรกับแนวเกมแบบนี้ และถือเป็นความท้าทายใหม่สำหรับเรา”
