เซิร์ฟเวอร์ออนไลน์ของเกมต่อสู้แนวแพลตฟอร์ม MultiVersus ถูกปิดให้บริการอย่างเป็นทางการแล้ว ขณะที่ผู้เล่นจะไม่สามารถจับคู่กับผู้อื่นทางออนไลน์ได้อีก WB Games ระบุว่าผู้เล่นที่ล็อกอินระหว่างวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ถึง 30 พฤษภาคม จะยังสามารถเข้าเล่นเกมได้
WB Games เคยประกาศตั้งแต่เดือนมกราคมแล้วว่า วันที่ 30 พฤษภาคม จะเป็นวันสุดท้ายของการให้บริการเซิร์ฟเวอร์ โดยซีซันที่ 5 ของเกมจะเป็นอัปเดตสุดท้าย
นอกจากการปิดเซิร์ฟเวอร์แล้ว MultiVersus ยังถูกถอดออกจากหน้าร้านดิจิทัลทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น Steam, Epic Games Store, PlayStation Store และ Microsoft Store ซึ่งหมายความว่าจะไม่มีผู้เล่นใหม่สามารถซื้อเกมนี้ได้อีกต่อไป
“การตัดสินใจนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย” ทีมพัฒนา Player First Games โพสต์ไว้เมื่อครั้งที่ประกาศการปิดเซิร์ฟเวอร์ “พวกเราทุกคนที่ Player First Games และ WB Games ได้ทุ่มเทหัวใจและจิตวิญญาณลงใน MultiVersus เพื่อสร้างประสบการณ์ร่วมเล่นที่ไม่เหมือนใคร รวบรวมเหล่าตัวละครและโลกยอดนิยมไว้ด้วยกัน”
“เราภูมิใจกับเกมที่สร้างขึ้นอย่างมาก และขอขอบคุณชุมชนผู้เล่น MultiVersus ที่ให้การสนับสนุนตลอดเส้นทางนี้ ความหลงใหลและความกระตือรือร้นของพวกคุณไม่มีใครเทียบได้”
การปิดเซิร์ฟเวอร์เกิดขึ้นเพียงไม่กี่เดือนหลังจากที่ Player First Games ถูกปิดตัวลง เช่นเดียวกับ WB Games San Diego, Monolith และเกมในแฟรนไชส์ Wonder Woman ที่อยู่ระหว่างการพัฒนา “นี่เป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์ ไม่ใช่การสะท้อนถึงทีมงานหรือพรสวรรค์ของพวกเขา” บริษัทระบุในแถลงการณ์
MultiVersus เคยประสบความสำเร็จในช่วงเปิด Closed Alpha ครั้งแรกในปี 2022 แต่ก็สูญเสียฐานผู้เล่นไปอย่างรวดเร็วก่อนที่จะปิดให้บริการ และแม้จะเปิดตัวเต็มรูปแบบอีกครั้งในเดือนพฤษภาคม 2024 บน PC, PS4, PS5, Xbox One และ Xbox Series X/S แต่ก็ไม่สามารถเรียกความนิยมกลับคืนได้
มีข่าวลือว่าความล้มเหลวในเชิงพาณิชย์ของ MultiVersus อาจมีส่วนทำให้ WB Games เผชิญปัญหาทางการเงิน จนนำไปสู่การหยุดพัฒนาเกม Wonder Woman โดย Bloomberg’s Jason Schreier กล่าวไว้ว่า
“ปีที่แล้ว Suicide Squad ล้มเหลวครั้งใหญ่ – พวกเขาต้องตัดงบขาดทุนไป $200 ล้าน MultiVersus และ Quidditch Champions ก็ล้มเหลวเช่นกัน ขาดทุนอีก $100 ล้าน” ชี้ให้เห็นว่าความพยายามของ WB Games ในการเข้าสู่ตลาดเกมแบบ Live Service ยังไม่ประสบผลสำเร็จ ภายใต้การบริหารของอดีตหัวหน้า David Haddad
ปัจจุบัน Haddad ได้ก้าวลงจากตำแหน่งแล้ว โดยมี JB Perrette ซึ่งดำรงตำแหน่ง CEO และประธานฝ่ายสตรีมมิ่งและเกมทั่วโลกของ Warner Bros. Discovery เข้ารับตำแหน่งแทน
