สารบัญ
ในช่วงที่อุตสาหกรรมเกมทั้งโลกถกเถียงกันหนักขึ้นเรื่อย ๆ เรื่องการใช้ AI ตั้งแต่คอนเซ็ปต์อาร์ตไปจนถึงงานโปรดักชัน ล่าสุดฝั่ง CD Projekt RED ทีมผู้สร้าง The Witcher 4 และ Cyberpunk 2077 ก็ออกมาพูดบนเวทีตัวเลขธุรกิจแบบตรงไปตรงมา โดย Michał Nowakowski (co-CEO) ตอบคำถามในช่วง Q&A ของรายงานผลประกอบการเกี่ยวกับ “การจ้างงาน” และบทบาทของ AI ในกระบวนการทำเกม—และคำตอบของเขาสรุปได้ในประโยคเดียวที่แทงใจ: AI ยังไม่ใช่สิ่งที่ “นั่งลงแล้วทำเกม” ได้เอง
ประเด็นหลัก: คนเก่งในวงการมีให้เห็นมากขึ้น ไม่ได้มาจาก AI แต่มาจาก “ความปั่นป่วน” ของอุตสาหกรรม
คำถามที่ถูกโยนมาให้ CDPR คือ ในยุคที่ AI กำลังมาแรง และมีคนสาย IT/เทคจำนวนมากอยู่ในตลาด การจ้างงานของสตูดิโอ มองภาพนี้ยังไง โดย Nowakowski อธิบายว่าความ “พร้อม” ของบุคลากรในช่วง 2–3 ปีหลัง ไม่ควรถูกโยงเข้ากับ AI แบบตรงเส้นเสียทีเดียว
เขามองว่าเหตุผลสำคัญจริง ๆ คือความสั่นคลอนของหลายสตูดิโอในช่วงที่ผ่านมา ตั้งแต่โปรเจกต์ถูกยกเลิก สตูดิโอปรับโครงสร้าง ไปจนถึงการปลดคนจำนวนมาก ซึ่งทำให้เกิดแรงงานฝีมือดี “หลุดออกมาในตลาด” มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และเขาย้ำว่าตัวเองแทบนึกไม่ออกเลยว่ามีเคสไหนที่ “พิสูจน์ได้ชัด ๆ” ว่าการเปลี่ยนแปลงนั้นเกิดขึ้นเพราะ AI โดยตรง
น้ำเสียงของเขาคือยอมรับความจริงของตลาดแบบไม่แต่งหน้า: อุตสาหกรรมช่วงนี้ดราม่าหนักและกระทบคนทำงานจริงจำนวนมาก แต่การสรุปว่า “AI คือสาเหตุหลัก” อาจเป็นการมองข้ามตัวการที่ชัดเจนกว่าอย่างการปิดโปรเจกต์และการลดกำลังคนจากเหตุผลทางธุรกิจ
CDPR ใช้ AI ตรงไหน: ใช้เพื่อ “productivity” ไม่ใช่เพื่อ “ลดคน”
เมื่อพูดถึงการใช้ AI ภายในสตูดิโอ Nowakowski บอกว่า CDPR ใช้มันเป็นหลักในงานกลุ่มที่เขาเรียกว่า “ด้านประสิทธิภาพการทำงาน (productivity areas)” ซึ่งเขายอมรับว่าประโยชน์นั้น “มีอยู่จริง” และ “มีความหมาย” ต่อการทำงาน
แต่สิ่งสำคัญกว่านั้นคือเขาปฏิเสธภาพฝัน/ภาพกลัวที่หลายคนกำลังโต้เถียงกันว่า AI จะถูกใช้เพื่อ “ลดหัว” ทีมงาน โดยย้ำว่าพวกเขาไม่ได้มองไปทางนั้น และต่อให้ AI จะเก่งขึ้นแค่ไหน ตอนนี้มันก็ยังไม่ใช่สถานการณ์ที่ AI จะ “นั่งลงแล้วทำเกม” ได้เองแบบแทนคนทั้งทีม และมันก็ไม่ใช่สิ่งที่จะมานั่งทำ The Witcher 5 หรือ The Witcher 6 ให้เกิดขึ้นได้ตามลำพัง
พูดในภาษาคนเล่นเกม: AI อาจช่วยให้ทีมทำงานไวขึ้น ลื่นขึ้น ลดงานจุกจิกบางส่วนได้ แต่ “แกนการสร้างเกม” ยังอยู่ที่มนุษย์—การตัดสินใจ การกำกับทิศทาง การเล่าเรื่อง การออกแบบประสบการณ์ และการทำให้ทั้งหมดกลายเป็นเกมที่มีหัวใจ
เชื่อมโยงดราม่าในวงการ: Vincke, Vávra และคำถามใหญ่ที่ไม่มีใครหนีได้
บทสนทนานี้เกิดขึ้นในช่วงเดียวกับที่ Swen Vincke (Larian Studios) พูดเรื่องการประเมิน generative AI ว่าเป็นสิ่งที่ “เลี่ยงไม่ได้” หากสตูดิโอรับผิดชอบต่ออนาคตของตัวเอง ขณะเดียวกัน Daniel Vávra (Warhorse Studios) ก็ออกมาพูดว่า AI “มาอยู่กับเราแล้ว” แม้จะมีความเสี่ยงและความน่ากลัว โดยเฉพาะในงานอย่างดนตรีที่บางครั้งแยกแทบไม่ออกว่าเป็น AI หรือไม่
สิ่งที่ทำให้มุมมองของ CDPR น่าสนใจคือมันอยู่ระหว่างสองขั้วแบบพอดี ๆ คือไม่ปฏิเสธประโยชน์ของ AI และไม่มองว่า AI เป็นปีศาจ แต่ก็ไม่ยอมขายฝันว่า AI จะเป็นเครื่องจักรสร้างเกมแทนมนุษย์ได้ในระดับที่ทำให้ “ไม่ต้องมีทีม” อีกต่อไป
แล้วมันหมายความว่าอะไรกับ The Witcher 4
ถ้าคุณเป็นคนที่กังวลว่า The Witcher 4 จะกลายเป็นงานที่ถูก “ปั๊มด้วย AI” คำตอบจาก CDPR รอบนี้ค่อนข้างชัดว่าพวกเขายังยืนบนหลักการเดิม: เกมระดับนี้ยังต้องอาศัยทีมคนจำนวนมาก และ AI จะถูกวางเป็นเครื่องมือเสริมเพื่อเพิ่มความเร็วและความลื่นไหลของการผลิต มากกว่าจะเป็นคนเขียนเกมแทน
และในยุคที่คำว่า “AI” ถูกใช้เป็นทั้งคำสัญญาและคำขู่ในประโยคเดียวกัน มุมมองแบบนี้อาจเป็นสิ่งที่ผู้เล่นอยากได้ยินที่สุด—ความจริงที่ไม่โรแมนติกเกินไป แต่ก็ไม่ตื่นตระหนกจนปิดประตูอนาคต


