Paweł Sasko ผู้กำกับฝ่ายสร้างสรรค์ของ Cyberpunk 2 (Project Orion) ออกมาสยบข่าวลือที่ว่าลิฟต์ในเกมคือจุดโหลดฉากลับ พร้อมปกป้องการตัดสินใจย้ายจาก REDengine ไปสู่ Unreal Engine 5 โดยย้ำว่าเป้าหมายของ CD Projekt RED คือการทุ่มเทเวลาไปกับการ “สร้างเกม” มากกว่าการ “สร้างเครื่องมือ” เพื่อมอบประสบการณ์ที่ไร้รอยต่อยิ่งกว่าเดิมครับ
ก้าวต่อไปของมหากาพย์ไซเบอร์พังก์
แม้ตัวเกมจะยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการพัฒนา แต่การเปลี่ยนมาใช้ Unreal Engine 5 จะช่วยให้ทีมงานสามารถสร้างรายละเอียดของเมือง Night City ได้ซับซ้อนและมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าภาคแรกอย่างมหาศาล
สยบตำนาน “ลิฟต์โหลดเกม”: ความจริงเบื้องหลังความลื่นไหล
หนึ่งในทฤษฎีที่แฟนเกมพูดถึงกันมากใน Cyberpunk 2077 คือการที่ลิฟต์ถูกใช้เป็นพื้นที่ซ่อนการโหลดฉาก (Loading Screen) แต่ในบทสัมภาษณ์ล่าสุด Paweł Sasko ได้ออกมาปฏิเสธเรื่องนี้อย่างชัดเจน โดยเขาระบุว่าระบบของ REDengine นั้นมีความเป็น “ปาฏิหาริย์” ในการจัดการสตรีมข้อมูลอยู่แล้ว ลิฟต์ในเกมจึงเป็นส่วนหนึ่งของการเล่าเรื่องและบรรยากาศในเมืองที่ต่อเนื่อง ไม่ใช่เพียงแค่ที่โหลดข้อมูลอย่างที่หลายคนเข้าใจครับ
สำหรับภาคต่ออย่าง Project Orion ทีมงานยังคงตั้งเป้าที่จะสร้างโลกที่ไร้รอยต่อ (Seamless World) โดยจะนำบทเรียนจากภาคแรกมาปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นภายใต้สถาปัตยกรรมใหม่ เพื่อให้ผู้เล่นไม่รู้สึกถึงการถูกตัดตอนระหว่างการสำรวจพื้นที่ต่างๆ ในเกม
ทำไมต้อง Unreal Engine 5? เมื่อการทำเกมสำคัญกว่าการทำเอนจิ้น
Sasko ได้อธิบายถึงเหตุผลสำคัญที่ CD Projekt RED ตัดสินใจทิ้ง REDengine ที่พวกเขาพัฒนาเองเพื่อเปลี่ยนไปใช้ Unreal Engine 5 (UE5) ของ Epic Games:
- Focus on Content: ทีมงานต้องการใช้พลังงานทั้งหมดไปกับการออกแบบเควสต์, เนื้อเรื่อง และโลกในเกม แทนที่จะต้องแบ่งทรัพยากรไปดูแลและอัปเดตเอนจิ้นอยู่ตลอดเวลา
- Technical Support: การทำงานร่วมกับ Epic Games อย่างใกล้ชิดช่วยให้ทีมงานสามารถดึงศักยภาพของเทคโนโลยีล่าสุดอย่าง Nanite และ Lumen มาใช้ได้ทันที รวมถึงระบบ Networking ที่แข็งแกร่งกว่าสำหรับโปรเจกต์ในอนาคต
- Recruitment: การใช้ UE5 ซึ่งเป็นมาตรฐานอุตสาหกรรม ช่วยให้สตูดิโอใหม่ในบอสตันและแวนคูเวอร์สามารถหาบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญเข้ามาร่วมทีมได้ง่ายและรวดเร็วขึ้นครับ
| หัวข้อ | รายละเอียด |
|---|---|
| ชื่อโปรเจกต์ | Project Orion (Cyberpunk 2) |
| ผู้พัฒนา | CD Projekt RED (Boston & Vancouver Studio) |
| เอนจิ้นที่ใช้ | Unreal Engine 5 (UE5) |
| สถานะปัจจุบัน | ขั้นตอนการเตรียมการผลิต (Pre-production) |
| จุดเด่น | โลกไร้รอยต่อ, ระบบออนไลน์, กราฟิกยุคหน้า |
| แหล่งอ้างอิง | TechPowerUp |
GameTonix Insight
การเปลี่ยนจากเอนจิ้นที่สร้างชื่อมาอย่าง REDengine ไปสู่ UE5 คือการเดิมพันครั้งใหญ่ของ CDPR ครับ ในมุมมองของนักพัฒนา การ “ไม่ต้องสร้างล้อใหม่ทุกครั้ง” จะช่วยลดความผิดพลาดที่เคยเกิดขึ้นตอนเปิดตัวภาคแรกได้มหาศาล แม้ว่าเสน่ห์บางอย่างของ REDengine อาจจะหายไป แต่การได้เห็น Night City ภายใต้ขุมพลังของ UE5 ที่มีการปรับแต่งมาเพื่อแนว RPG โดยเฉพาะ ก็นับว่าเป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นที่สุดสำหรับแฟนไซเบอร์พังก์ครับ


