หลังจาก Larian Studios ทำแฟน ๆ ใจเต้นแรงกับการเปิดตัว Divinity ภาคใหม่แบบโทนหลอน ๆ ไปเรียบร้อย วันนี้ถึงคิวพาแฟนสาย RPG ย้อนกลับไปสัมผัส “ตำนานภาคก่อน” บนเครื่องยุคปัจจุบันกันบ้าง เพราะ Divinity: Original Sin 2 – Definitive Edition เปิดให้เล่นแล้วบน PS5, Xbox Series X|S และ Nintendo Switch 2 และข่าวดีคือ ใครที่มีเกมบนเครื่องเจนก่อนหน้าอยู่แล้ว สามารถอัปเกรดเป็นเวอร์ชันนี้ได้ฟรี
เพียงแค่เข้าไปที่หน้าร้านค้าในแพลตฟอร์มของคุณแล้วกดดาวน์โหลด Upgrade Pack ก็เรียบร้อย (ยกเว้นในญี่ปุ่น ถ้าเป็นเวอร์ชัน Nintendo Switch หรือ PS4 จะมีค่าธรรมเนียมสัญลักษณ์ที่ 100 เยน) จากนั้นก็พร้อมย้ายเซฟและสัมผัสประสบการณ์ฉบับปรับปรุงบนฮาร์ดแวร์ใหม่ได้ทันที
ตัวที่ปล่อยให้เล่นตอนนี้เป็น Definitive Edition ซึ่งไม่ได้มีแค่กราฟิกและประสิทธิภาพที่ดีขึ้น แต่ยังรวมเอาอัปเดตหลังวางจำหน่ายทั้งหมดมัดมาให้ในชุดเดียว ทั้งเควสต์ใหม่ เซ็ตเกียร์ใหม่ บาลานซ์ปรับปรุง และการรีงาน “ช่วงท้ายเกม” ให้สมบูรณ์และลื่นไหลกว่าเวอร์ชันที่ออกตอนแรก ใครที่เคยได้ยินว่าบทสรุปของ Original Sin 2 ถูกขัดเกลามาเพิ่มในภายหลัง เวอร์ชันนี้คือฉบับที่พร้อมที่สุด
แม้จะไม่ได้รองรับม็อดแบบจัดเต็มเหมือน Baldur’s Gate 3 แต่ Larian ก็ไม่ลืมเสียงแฟน ๆ ด้วยการหยิบม็อดยอดนิยมจากคอมมูนิตี้หลายตัวมาปรับให้กลายเป็น “ตัวเลือกในเกม” เปิดใช้ได้เลยตั้งแต่แรก เช่น ความเร็ววิ่งที่ไวขึ้น การฟื้นฟู Source Points อัตโนมัติในบางเงื่อนไข และตัวเลือกคุณภาพชีวิตอื่น ๆ ที่ทำให้การเล่นซ้ำหรือเริ่มใหม่รู้สึกสบายขึ้น แต่ยังไม่ทำลายดีไซน์ต้นฉบับ
ถึงจะเป็นเกมคนละยุคกับ Baldur’s Gate 3 และใช้ระบบต่อสู้แบบเทิร์นเบสคลาสสิก แต่ Divinity: Original Sin 2 ก็ยังอัดแน่นไปด้วยเสน่ห์แบบเดียวกันที่ทำให้หลายคนรักงานของ Larian ทั้งความกวนในบทพูด การเขียนเนื้อเรื่องที่เล่นกับตัวเลือกของผู้เล่นอย่างจริงจัง และระบบต่อสู้ที่ให้คุณเอาสภาพแวดล้อมมาเล่นสนุกได้แทบทุกช่องทาง ใครที่เพิ่งรู้จัก Larian จาก Baldur’s Gate 3 นี่คือเวลาเหมาะสุด ๆ ที่จะย้อนไปสัมผัส “รากฐาน” ของความโหดมันฉลาดในแบบที่สตูดิโอนี้ถนัด
