รีวิวเกม God of War Ragnarok, Review - God of War Ragnarok

รีวิวเกม God of War Ragnarok

God of War Ragnarok เป็นเกมที่สร้างกระแสแรงตั้งแต่เกมยังไม่ทันได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ และหลังจากที่เกมได้ประกาศวันวางจำหน่ายในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2022 ยิ่งทำให้เหล่าสาวกของซีรีส์เกม God of War ต่างเฮกันลั่นเมื่อได้ดูตัวอย่างเปิดตัวเกม หลังจากนั้นไม่นานเกมก็ทำยอดขายแบบถล่มถลายกว่า 5 ล้านชุด ในสัปดาห์แรกหลังจากเกมวางจำหน่าย และกลายเป็นเกมที่ขายได้เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์

โดยความคิดเห็นส่วนใหญ่จากผู้เขียนเองหลังจากที่ได้ดูวิดีโอเปิดตัวเกม God of War Ragnarok ก็มีอาการตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก ทั้งๆ ที่ยังไม่เคยมีประสบการณ์ในการเล่นเกมในซีรีส์นี้มาก่อน ใช่แล้วหล่ะ!! ผู้เขียนเองก็เพิ่งจะเคยได้เล่นเกมในซีรีส์นี้เป็นครั้งแรก และจัดว่าเป็นกลุ่มคนใน 30% ของคนที่มี PlayStation 5 โดยที่ยังไม่เคยมีเครื่อง PlayStation 4 มาก่อน ตามที่ Sony ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลล่าสุด

แต่ก็ต้องบอกก่อนว่าผู้เขียนก็เคยได้เห็นเกม God of War ผ่านตามาบ้างแล้วในภาคอื่นๆ ก่อนหน้านี้ จนกระทั่งได้ตัดสินใจหาซื้อเครื่อง PlayStation 5 (หายากสุดๆ) และหาซื้อมาครอบครองได้ในที่สุด หลังจากนั้นก็รีบมาแกะกล่องเปิดเครื่องและซื้อเกม God of War Ragnarok เกมที่ทำให้หัวใจเต้นรัว ด้วยอาการของความอยากเล่นและบทความรีวิวเกม God of War Ragnarok ที่จะได้อ่านหลังจากนี้ ผู้เขียนจะเล่าถึงความรู้สึกที่ได้เล่นเกมนี้เป็นครั้งแรกแบบครั้งแรกจริงๆ อย่างตรงไปตรงมา และถ้าหากผู้อ่านท่านใดรู้สึกชอบหรือเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์อย่าลืมเข้าไปติดตามเรากันได้

สามารถกดแชร์ข้อมูลและกดติดตามช่องวิดีโอใหม่ๆ ของเราได้ที่
เพจ Facebook และช่อง Youtube ของเราได้เลย

รีวิวเกม God of War Ragnarok, Review - God of War Ragnarok

God of War Ragnarok

God of War Ragnarok เป็นเกมแอคชั่นผจญภัยที่ได้รับการพัฒนาโดย Santa Monica Studio จัดจำหน่ายโดย Sony Interactive Entertainment โดยวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการทั่วโลกในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2022 และยังเป็นเกมแบบ Exclusive ที่วางจำหน่ายเฉพาะบนเครื่อง PlayStation 4 และ PlayStation 5 เท่านั้น (ในช่วงแรก และจะวางจำหน่ายบนแพลตฟอร์มอื่นหลังจากหมดช่วง Exclusive แล้ว)

God of War Ragnarok เป็นเกมในภาคต่อของซีรีส์ God of War 2018 โดยในภาคปี 2018 ได้เล่าถึงเรื่องราวการต่อสู้ที่เกิดขึ้นหลังจาก Kratos และ Atreus ได้ร่วมกันสังหารเทพเจ้า Baldur และได้รับคำทำนายถึงการนำไปสู่สงครามสุดท้ายที่เกิดขึ้นในภาคปัจจุบันในชื่อภาค Ragnarok

เนื้อเรื่อง

ขอเล่าคร่าวๆ แบบคร่าวที่สุด เกี่ยวกับเนื้อเรื่องของเกม God of War Ragnarok เลยแล้วกัน เพราะถ้าให้เล่าทั้งหมดมันจะยาวมาก ผู้เขียนเลยคิดว่าจะทำบทความเนื้อเรื่องทั้งหมดแยกออกมาอีกทีเกี่ยวกับเนื้อเรื่องของเกมและสามารถติดตามรออ่านกันได้ 

เนื้อเรื่องเกม God of War Ragnarok จะแบ่งออกเป็น 2 Part ติดตามอ่านกันได้ด้านล่าง

ในภาคนี้เราจะได้เห็น Atreus ที่กำลังเริ่มเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นและดูเหมือนว่าเขาก็ต้องการได้รับความไว้วางใจจากผู้เป็นพ่อมากที่สุด ในขณะที่ Kratos เองก็พยายามปกป้องลูกทุกวิถีทางและอาจทำไปตามสัญชาติญาณความเป็นพ่อ จนลืมนึกไปว่า Atreus ก็ต้องเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ในแบบของเขาเองในอนาคตและเราจะได้เห็นฉากปะทะอารมณ์ของทั้งคู่กันอยู่บ่อยๆ

เนื้อเรื่องคร่าวๆ จะเล่าถึงเหตุการณ์ต่อเนื่องจากภาคก่อนหน้านี้ที่ Kratos และ Atreus ได้ไปสังหารลูกของ Freya และยังเล่าถึงเหตุการณ์ตามคำทำนายว่าจะเกิดสงครามสุดท้ายที่เรียกกันว่าสงคราม Ragnarok สงครามซึ่งเป็นจุดจบของอาณาจักรทั้ง 9 และเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความสูญเสียครั้งใหญ่ การเดินทางของพวกเขาจึงเริ่มต้นขึ้นเพื่อหยุดยั้งไม่ให้อาณาจักรทั้ง 9 ทำสงครามและพังทลายลงตามคำทำนายของเทพ Gróa

รีวิวเกม God of War Ragnarok, Review - God of War Ragnarok

Odin ได้บังคับให้เทพ Gróa บอกเล่าทุกอย่างเกี่ยวกับคำทำนาย และได้รับรู้ว่าตัวเขาจะต้องตายในสงคราม Ragnarok เขาจึงพยายามหาทางหยุดยั้งสงครามนี้เพราะ Odin คิดว่าถ้าไม่เกิดสงครามขึ้น ตัว Odin เองก็จะไม่ตายตามคำทำนายของเทพ Gróa เช่นกัน

แต่ว่าเทพ Gróa ก็ไม่ได้เล่าคำทำนายให้ Odin ฟังทุกอย่าง ยังมีคำทำนายบางอย่างที่ Odin เองก็ไม่รู้และไม่รู้มาก่อน นั้นคืออาณาจักรที่จะพังทลายมีเพียงแค่อาณาจักร Asgard เท่านั้นที่จะดับสูญลงไปส่วนอาณาจักรอื่นๆ ที่เหลือจะยังอยู่รอดปลอดภัย แต่ไม่ว่าอย่างไรสงครามก็มีแต่ความสูญเสีย

Odin ผู้ที่ไม่ต้องการให้เกิดสงครามจึงได้หาทางป้องกันสงครามเช่นเดียวกันและได้ค้นพบหน้ากากที่สามารถมอบความรอบรู้อันไร้ขีดจำกัด และเขาอาจใช้หน้ากากนั้นเพื่อช่วยในการค้นหาคำตอบที่แท้จริงทั้งหมดเกี่ยวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นและป้องกันไม่ให้เกิดสงครามและตัว Odin เองจะไม่ตาย

แต่ไม่ว่า Odin จะทำอย่างไรเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดสงครามขึ้น ในท้ายที่สุดแล้วก็ยังคงเกิดสงคราม Ragnarok ขึ้นอยู่ดีตามคำทำนายของเทพ Gróa และในที่สุด Odin เองก็ถูกสังหารโดย Kratos และ Atreus และเมื่อเกิดสงครามแล้วก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงความสูญเสียครั้งใหญ่ได้ หลังจากที่ชนะ Odin ได้แล้ว ก็ถึงเวลาที่ Atreus ต้องแยกตัวออกจากการเดินทางร่วมกันกับ Kratos เสียที

และ Atreus ก็มีภารกิจที่ต้องการจะสานต่อให้สำเร็จ นั้นคือการออกตามหาเหล่ายักษ์ (Jötunn) ที่เขาคิดว่ายังหลงเหลืออยู่และหลบซ่อนตัวอยู่ที่ใดสักแห่งหนึ่ง Atreus จึงบอกลาพ่อและเพื่อนของเขา Angrboda และคนอื่นๆ และเริ่มต้นการเดินทางใหม่ตามที่ Atreus ต้องการเรียกได้ว่าเป็นการแยกทางกันอย่างสุดซึ้งเลยหละ

ตัวละครหลัก

จะเล่าโดยเริ่มจากตัวละครที่เราสามารถเล่นได้อย่าง Kratos และ Atreus ตามลำดับ ส่วนตัวละครรองที่คอยช่วยซัพพอร์ตเราตามสถานการณ์ต่างๆ ตามเนื้องเรื่องอย่าง Angrboda, Freya, Sindri, Brok, Thrúd ผู้เขียนจะยังไม่พูดถึง

รีวิวเกม God of War Ragnarok, Review - God of War Ragnarok

Kratos

Kratos เป็นตัวละครดั้งเดิมของเกม God of War ที่ได้รับการพัฒนาให้เติบโตไปตามเนื้อเรื่องตามยุคตามสมัย ซึ่งดูเหมือนว่าอารมณ์และนิสัยของตัวละครก็จะได้รับการพัฒนาตามไปด้วย โดยจะแสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนถึงเจตนาในการทำสิ่งต่างๆ รวมถึงการตัดสินใจในการสื่อสารออกมาผ่านบทพูดของตัวละครที่ค่อนข้างทำให้ผู้เล่นมีอารมณ์ร่วมไปกับการสื่อสารนั้น และการแสดงออกของตัวละครนี้ก็ทำได้ราวกับว่าผู้เล่นได้เป็นส่วนหนึ่งของเกมเลยก็ว่าได้

ทักษะหรือสกิลต่างๆ ได้รับการออกแบบมาเป็นอย่างดี มีลำดับขั้นตอนที่ดีมากๆ ทั้งอาวุธดั้งเดิมที่เป็นขวานน้ำแข็ง (Leviathan Axe) และดาบคู่โซ่เพลิง (Blades of Chaos ) รวมถึงอาวุธใหม่ที่ถูกเพิ่มเข้ามาอย่างหอกแห่งสายลม (Draupnir Spear)

รีวิวเกม God of War Ragnarok, Review - God of War Ragnarok

เซ็ตชุดเกราะที่สวมใส่มีความหลากหลายมากและมีค่า Status รวมถึงสกิลที่ติดมากับเซ็ตชุดเกราะนั้นค่อนข้างมีความชัดเจน ช่วยให้ผู้เล่นสามารถตัดสินใจได้ง่ายว่าจะเลือกสร้างตัวละครให้เป็นแบบใดก็ได้ตามที่ผู้เล่นแต่ละคนต้องการ โดยแต่ละชุดก็จะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไปโดยจะมีค่า Status พื้นฐานที่ต้องดูคือ

ค่า Status ที่สำคัญ

  • STRENGTH คือ ค่าพลังโจมตี
  • DEFENCE คือ ค่าพลังป้องกันและลดความเสียหายที่ได้รับ
  • RNC คือ ค่าพลังการสร้างความเสียหายโดยใช้ธาตุ (น้ำแข็ง, ไฟ, ลม, พิษ)
  • VIT คือ ค่าพลังที่ช่วยเพิ่มจำวนของ HP
  • CLD คือ ค่าพลังที่ช่วยลด Cooldown สูงสุดของสกิลลง
  • LCK คือ ค่าพลังที่ช่วยให้เราได้จำนวนไอเท็มที่ดรอปมากขึ้น
  • SKILL จะหมายถึง ทักษะเฉพาะที่ติดมาในเซ็ตชุดเกราะแต่ละชิ้น
รีวิวเกม God of War Ragnarok, Review - God of War Ragnarok

Atreus

Atreus เรียกได้ว่าเป็นตัวละครหลักสำคัญอีกตัวละครหนึ่งที่จะคอยดำเนินเรื่องราวให้เราได้เห็นในอีกมุมมองหนึ่งของหนุ่มน้อย ที่มีความรักต่อพ่อของเขา และพยายามปกป้องพ่อในแบบที่เขาเลือกและคิดว่ามันดีที่สุดแล้ว มีความมุทะลุและความมั่นใจในตัวเองสูงและคิดว่าเขาสามารถจัดการทุกอย่างได้ด้วยตัวคนเดียว การแปลงร่างเป็น หมี หรือ หมาป่า เมื่อ Atreus ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ (ในความคิดเห็นของผู้เขียน อาจหมายถึงการเปรียบเปรยว่า ถ้าหากเราขาดสติแล้วมันอาจก่อเกิดความเสียหายได้อย่างใหญ่หลวงโดยที่ไม่ทันได้ยั้งคิดเลยก็ว่าได้)

ตัวละครนี้ทำให้เรานึกถึงเด็กคนนึงที่กำลังจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่และอยากให้คนในครอบครัวเชื่อใจและรับฟังสิ่งที่เขาคิดหรือสื่อสารออกมา และเราจะได้เห็นฉากการปะทะอารมณ์ระหว่าง Atreus กับ Kratos ผู้เป็นพ่ออยู่บ่อยๆ และบางครั้งอาจเกิดจากประสบการณ์ของ Atreus ที่ยังไม่มากพอจนทำให้เขาตัดสินใจบางอย่างผิดพลาดไป รวมถึงการใช้อารมณ์ที่เป็นที่สำคัญ 

เมื่อเราได้มาเล่นเป็น Atreus แล้วเราจะไม่สามารถปรับแต่งอะไร Atreus ได้มากนักสำหรับเช็ตชุดเกราะ ซึ่งเกมจะกำหนดเช็ตชุดเกราะมาให้เป็นแบบทั้งเซ็ตและจัดเซ็ตมาให้เราแล้ว เราจะสามารถทำได้เพียงเลือกสวมใส่ชุดอะไรก็ได้ที่เราชอบ (ตามที่เรามี) นอกจากนี้เราจะทำได้เพียงแค่การปรับแต่ง Accessory และการอัพค่าทักษะและสกิลที่ใช้คู่กับธนูเพื่อช่วยให้การซัพพอร์ตดีขึ้น การปรับแต่งทั้งหมดจะคล้ายกันกับตัวละครของ Freya ที่จะมาช่วยซัพพอร์ตเราอยู่บ่อยๆ 

ระบบการเล่นและการบังคับตัวละคร

ในการเล่นและการบังคับตัวละครทั้ง 2 ตัวจะมีความแตกต่างกันอยู่พอสมควรชนิดที่ว่ารับรู้ได้ถึงความรู้สึกในการเล่น โดยที่เราจะสามารถรับรู้ได้ถึงความลื่นไหลในการบังคับ ไม่ว่าจะการต่อสู้กับศัตรูแบบไหนก็ตาม โดยที่เราสามารถใช้สกิลและทักษะ Combo ในการต่อสู้ได้อย่างต่อเนื่อง การสับเปลี่ยนอาวุธแบบกดสลับปุ่มไปมาก็ทำได้คล่องแคล่วและง่ายดาย เอาจริงๆ ในช่วงแรกที่ยังไม่คุ้นชินกับการสลับสับเปลี่ยนอาวุธอาจทำให้ผู้เล่นสับสนได้เล็กน้อย แต่เล่นไปสักพักก็จะชินเอง และมันจะสนุกขึ้นเป็นเท่าตัว

ส่วนสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่อยากบอกเลยคือ การจดจำรูปแบบของทักษะและสกิลที่เลือกใช้ในการต่อสู้ เพราะแต่ละสกิลจะมีระยะการโจมตีและการใช้งานในรูปแบบที่แตกต่างกันพอสมควร รวมถึงระยะเวลาในการตั้งท่าของการโจมตีแต่ละครั้ง และถ้าเราสามารถจดจำรูปแบบของแต่ละทักษะและสกิลได้แม่นยำแล้ว มันจะเป็นประโยชน์กับเราอย่างมากในการเล่น ซึ่งมันจะสนุกขึ้นอีกเป็นอย่างมากเมื่อต่อสู้และจะช่วยให้เรานึกภาพการโจมตีได้อย่างต่อเนื่องมากขึ้น

หลังจากที่เราควบคุมและเล่นตัวละคร Kratos มาสักพัก ตามเนื้อเรื่องเมื่อเล่นไปเรื่อยๆ ตัวเกมจะเปิดโอกาสให้เราได้ควบคุมตัวละคร Atreus ซึ่งเราจะรู้สึกได้ทันทีเลยว่ามันคล่องแคล่ว รวดเร็วกว่าตัวละคร Kratos และเล่นได้ลื่นไหลกว่ามาก ถ้าลองคิดตามการออกแบบตัวละครแล้ว จะเห็นว่าการออกแบบตัวละครค่อนข้างตอบรับกับความรู้สึกในการเล่นได้ดีอาจเป็นเพราะ Atreus เป็นตัวละครที่อยู่ในช่วงวัยรุ่นและคล่องแคล่วกว่า ในขณะที่ตัวละคร Kratos จะให้ความรู้สึก ดุดัน แข็งแรงและหนักหน่วงกว่า อย่างเห็นได้ชัด

ระบบทักษะและสกิล

โดยพื้นฐานของแต่ละตัวละครแล้วทักษะและสกิลจะถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ๆ โดยในตัวอย่างที่เห็นจะเป็นสกิลของ Kratos ซึ่งจะแยกเป็น Technique (ความชำนาญพิเศษ)/ Range (ระยะไกล) / Melee (ระยะประชิด) ซึ่งแต่ละตัวละครก็จะมีทักษะและสกิลที่มีชื่อเรียกแตกต่างกันออกไปตามแต่ละตัวละคร

รีวิวเกม God of War Ragnarok, Review - God of War Ragnarok

ข้อสำคัญเมื่อเราใช้ทักษะหรือสกิลนั้นในการต่อสู้บ่อยๆ ระบบจะนับจำนวนการใช้งานที่สำเร็จทุกครั้งให้เราแบบอัตโนมัติและจะนับเป็นค่าประสบการณ์ของการใช้ทักษะนั้นให้ด้วย แต่มีข้อแม้ว่าเราจะต้องไม่ถูกฆ่าตายจากศัตรูที่เราใช้ทักษะหรือสกิลนั้นโจมตี

เมื่อใช้งานสกิลนั้นๆ บ่อยมากพอเราจะสามารถพัฒนาสกิลเป็นขั้นถัดไปได้จนกระทั่งถึงระดับ Gold เมื่อถึงระดับ Gold ในแต่ละสกิลจะสามารถใส่ความสามารถพิเศษเพิ่มได้อีก 1 อย่าง เช่น การเลือกเพิ่มให้สามารถโจมตีได้แรงขึ้น หรือจะเลือกให้สามารถโจมตีติดธาตุได้เร็วและแรงขึ้นก็ได้

ปริศนาและกลไก

การเดินทางเป็นสิ่งที่เราหลีกหนีไปไม่ได้และยิ่งเป็นเกมขนาดใหญ่แบบนี้ God of War ด้วยแล้ว มันคงจะน่าเบื่อน่าดู ถ้าการเดินทางเป็นแบบเรื่อยๆ เอื่อยๆ ไปจนถึงเป้าหมาย ดังนั้นเราจึงได้พบเจอกับปริศนาและระบบกลไกต่างๆ ที่มีทั้งซับซ้อนและไม่ซับซ้อนในการเดินทางไปในแต่ละอาณาจักรเพื่อทำให้ต้องเราขบคิดหาทางไปต่อ

รีวิวเกม God of War Ragnarok, Review - God of War Ragnarok

ซึ่งในแต่ละอาณาจักรก็จะนำเสนอรูปแบบการแก้ไขปริศนาในแบบของตัวเอง อย่างเช่น อาณาจักร Alfheim จะเป็นลักษณะการเชื่อมจุดของการโจมตีที่ Kratos ต้องเลือกใช้อาวุธที่สามารถขว้างออกไปกระทบกับหิน เพื่อที่จะสร้างเส้นทางการสะท้อนของอาวุธ และตัดเส้นทางการเชื่อมของปริศนากลไกให้ขาดออกจากกัน จึงจะเดินทางต่อไปได้

ซึ่งก็ค่อนข้างทำให้เราต้องคิดและหัดสังเกตุอยู่บ่อยๆ เพื่อมองหาสิ่งที่มีความเป็นไปได้มากที่สุดในการแก้ไขปริศนาในระหว่างการเดินทางซึ่งจะมีอยู่ตลอดทั้งเกม และมันทำให้เกมไม่น่าเบื่อและไม่รู้สึกว่าการเดินทางมันง่ายจนเกินไป

เนื้อเรื่องรอง

เนื้อเรื่องรองในที่นี้จริงๆ แล้วเป็น Quest รองที่มีเยอะเอามากๆ ซึ่งถ้าเราใช้เวลาเล่นตามเส้นเรื่องหลักจนจบ เราน่าจะใช้เวลาประมาณ 20 – 25 ชั่วโมงเท่านั้น และคาดการณ์ว่าตัวเกมทั้ง 100% เมื่อเล่นจบเฉพาะเส้นเรื่องหลักน่าจะคืบหน้าเพียง 30% – 40% ส่วนที่เหลืออีกเกือบ 60% – 70% เป็นเนื้อเรื่องรอง และแน่นอนว่าเวลาที่ใช้ในการเล่นจนครบ 100% ไม่น่าจะต่ำกว่า 60 ชั่วโมง หรืออาจจะต่ำกว่านั้นได้ถ้าเล่นเก่งจริงๆ

รีวิวเกม God of War Ragnarok, Review - God of War Ragnarok

เพราะฉะนั้นแล้วไม่ต้องกังวลเลยว่าถ้าเล่นเกมจนจบเนื้อเรื่องหลักแล้วจะไม่มีอะไรให้ทำต่อ เราสามารถตามหาไอเท็ม เก็บเศษหินธาตุมาตีอาวุธเพื่ออัพเกรดได้ไปจนสุดเลเวล 9 ได้อย่างสบาย รวมถึงถ้าใครที่ชอบชุดเช็ตของชุดเกราะและต้องการสะสมให้ครบทุกชุดแล้ว การเล่นเนื้อเรื่องรองเป็นอะไรที่ควรเล่นเป็นอย่างยิ่ง อย่างเช่น การตามล่า Boss ใน Quest รองอย่าง “Fit For A King” เพื่อตามล่าชุดเกราะของเหล่า Berserker ในตำนานรวมถึงไอเท็มอื่นๆ ที่จะได้รับหลังจากทำ Quest นี้สำเร็จ

รีวิวเกม God of War Ragnarok, Review - God of War Ragnarok

และยังมี Quest รองหรือเนื้อเรื่องรองอื่นๆ อีกมากกกแบบมาจริงๆ ให้เราเล่นไม่ว่าจะเป็นการตามล่ายิงนกของ Odin จนครบทั้ง 48 ตัวที่จะโผล่มาให้เห็นตลอดทั้งเกมและเราก็ต้องคอยสังเกตุกันดีๆ ว่ามันบินหรือไปเกาะอยู่ตรงไหนของแผนที่บ้าง ซึ่งในแผนที่ก็จะมีบอกไว้คร่าวๆ ว่าในแต่ละแผนที่มีนกของ Odin หรือกล่องสมบัติที่เรายังไม่ได้เปิดหรือยังไม่เจออีกกี่ชิ้นและเราต้องออกตามหากันเองในแผนที่นั้น

บทสรุป

สำหรับผู้เล่นท่านใดที่เป็นสาวกตัวยงของเกมในซีรีส์ God of War อยู่แล้ว ก็คงไม่ต้องพูดอะไรกันให้มากความ ผู้เขียนเชื่อว่าผู้เล่นหลายๆ ท่านได้ติดตามข่าวการวางจำหน่ายเกม God of War Ragnagrok อยู่เป็นประจำเรื่อยมาจนกระทั่งเกมวางจำหน่าย คงไม่พลาดที่จะหาซื้อมาเล่นกันอย่างแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งแฟนเกมที่มีเครื่อง PlayStation อยู่แล้วไม่ว่าจะเป็น PlayStation 4 หรือ PlayStation 5 ก็ตามที

แต่สำหรับท่านใดที่เพิ่งเป็นผู้เล่นมือใหม่เหมือนกับผู้เขียนแล้ว ต้องยอบรับเลยว่าหลังจากที่ได้เล่นเกม God of War Ragnarok จนจบแล้ว บอกได้เลยว่ามันสนุกมากถึงสนุกมากกกที่สุด ด้วยเนื้อเรื่องและการดำเนินเรื่องราวที่เป็นเอกลักษณ์ในตำนานเทพนอร์ส และผู้เขียนเชื่อเลยว่าท่านใดที่เพิ่งเคยได้เล่นเกมภาคนี้เป็นภาคแรกในซีรีส์ จะต้องหันกลับไปมองเกม God of War ภาคก่อนหน้านี้เพื่อหามาเล่นให้ได้อย่างแน่นอน

และทั้งหมดนี้ก็เป็นความรู้สึกที่ผู้เขียนได้นำมาบอกเล่าให้ฟังกัน อาจมีตกหล่นบ้างต้องขอกันล่วงหน้าไว้ก่อน และถ้าหากท่านใด

จุดเด่น

  • จุดเด่นคือการเล่าเรื่องและการดำเนินเรื่องที่ดีเอามากๆ
  • ระบบการเล่นลื่นไหล เข้าใจง่าย
  • แม้ว่าจะเล่นเนื้อเรื่องหลักจบแล้ว ก็ยังมีอะไรให้เล่นต่ออีกเยอะมาก
  • ภาพ เสียง ดนตรีประกอบทุกอย่างออกมาดีหมด
  • แทรกข้อคิดเรื่องการสอนลูก ได้อย่างน่าสนใจ
  • คุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไป ไม่ผิดหวังที่ได้เล่น

ข้อควรระวัง

  • ไม่เหมาะกับคนเป็นโรคหัวใจ (อันนี้บอกเลยว่าไม่ได้กล่าวเกินจริง) เพราะเลือดเราจะสูบฉีดแรงและทำหัวใจจะเต้นแรงมาก (จริงๆ) โดยเฉพาะตอนสู้กับ Boss
  • ไม่เหมาะกับผู้เล่นที่หัวร้อนง่าย เพราะมันจะมีจังหวะแบบ อีกนิดๆ ก็ชนะแล้ว แบบนี้อยู่บ่อยๆ

คะแนน: 9.9 / 10

ข้อมูลเพิ่มเติม

ผู้พัฒนาเกม
Santa Monica Studio

ผู้จัดจำหน่าย
Sony Interactive Entertainment

วันวางจำหน่ายเกม
วันที่ 9 พฤศจิกายน 2022

ประเภทเกม
Action-Adventure, Hack and Slash

แพลตฟอร์มที่เล่นได้
PlayStation 5, PlayStation 4

ซื้อผ่านร้านค้าใน Shopee ได้ที่ https://shope.ee/2fnLWgQsVh

GameTonix Ads Banner 970x250